การฝึกภาษาของคนขี้เกียจ(มาก)
การฝึกภาษาอังกฤษจากการดูหนัง ดูซีรี่ย์
เรารักภาษาอังกฤษมาก เราชอบดารา นักร้อง ศิลปิน ต่างชาติมาก เรารักอเมริกามาก เรามีความคิดว่าสักครั้งในชีวิตเราต้องไปที่นั่นให้ได้ เราจึงทำทุกวิธีทางที่จะฝึกภาษาให้เก่งเพื่อจะไปที่นั่น เราเป็นคนขี้เกียจค่อนข้างมาก แต่เรารักการดูหนัง ดูซีรี่ย์มาก เราจึงหาวิธีที่จะฝึกภาษาอังกฤษ ตอนแรกเราคิดจะท่องคำศัพท์ทุกวัน คิดว่าอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทุกวัน แต่ว่าในความจริง เราท่องได้แค่สองวันเว้ย พอวันที่เราก็ค่อยท่องละกัน ผลัดวันประกันพรุ่งมาก ความคิดก็ล้มเลิกไปในไม่ช้า.... แต่ก็ท้อไม่นานนะ หลังนั้นไม่นานสัก 1 ถึง 2 อาทิตย์ คามคิดที่อยากจฝึกภาษาอังกฤษเราก็ถูกปลกขึ้นมาอีกครั้งโดยจากที่เราไปยูทูปฟังเรื่องราวชีวิตของคนอื่นที่ประสบความสำเร็จจากการที่พวกเขานั้นเก่งภาษาอังกฤษ เราก็เริ่มต้นนับ 1 จากการหาวิธีที่จะฝึกภาษาอังกฤษอีกครั้ง ครั้งนี้เราเลือกวิธีการฟังเข้ามาเป็นตัวลือกอย่างแรก เราจริงเจอวิธีที่ว่า การดูหนังดูซีรี่ย์ ที่ช่วยให้เราสามารถฟังเจ้าของภาษาพูดได้มากขึ้น และช่วยพัฒนาทักษะในการฟังมากขึ้น เราก็คิดว่าวิธีนี้น่าสนใจ เราก็ตั้งเป้าหมายแล้วก็เริ่มฝึก บออกตามความจริงนะแก สองสามเดือนแรกเราดูซีรี่ย์บ่อยนะแต่ไม่ได้บอกขนาดนั้นทุกอ่ะ แบบอาทิตย์นึงประมาณ4-5ตอนถ้ามีเวลาว่าง ดูหนังบ้างถ้าเราว่าง แล้วก็เราฟังเพลงภาษาอังกฤษทุกวัน เราก็ลองไปฟังบทสัมภาษณ์สั้นๆของฝรั่ง เห้ย มันฟังไม่เห็นออกเลยวะ เราก็แอบโกรธที่มันไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย แต่หลังจากสองเดือนนั้นมันทำให้เราติดซีรี่ย์ฝรั่งไปเลย ปกติเราติดซีรี่ย์เกาหลีนะ ชอบความรักแบบน่ารัก โรแมนติก แต่หลังจากเราดูซีรี่ย์ฝรั่งเราติดซีรี่ย์แนวสอบสวน สืบสวนไปเลย หลังจากนั้นเราก็ดูซีรี่ย์บ่อยๆแต่ไม่ได้ขนาดทุกวันหรือทุกอาทิตย์ขนาดนั้นเพราะ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เราเพิ่งเข้ามหาลัยแล้วกิจกรรมเยอะมาก และการก็มากโขเด้อ... เราก็ดูซีรี่ย์บางถ้ามีเวลา บางทีก็ดูหนัง เราทำแบบนั้นมานานมาก6-7 เดือนด้วยซ้ำนะ แล้วเราก็ไปเจอยูทูปคลิปนึงยาวประมาณ4-5นาที เราก็ลองฟังโดยไม่ได้คิดอะไร เห้ยแก!!! มันฟังออกเว้ย แต่บอกตามความจริงอีกครั้งเราไม่ได้แปลออกทั้งหมดนะ แต่พอฟังรู้เรื่องว่าเค้าพูดว่าอะไร พูดถึงอะไร ตอนนั้นเราช็อคตัวเองมากเลยนะ แต่ว่าที่เราออ่อนน่าจะเรื่องคำศัพท์ด้วยเลยทำให้ไม่สามารถแปลวออกทั้งหมดว่าเค้าพูดว่าอะไร แต่ตอนนี้เราก็ดีใจแล้วนะที่ฟังออกบ้าง ในส่วนเรื่องพัฒนาก็คงต้องพัฒนาต่อไป เพราะตอนนี้เราก็ไม่ได้พึงพอใจกับความสามารถตัวเองทางด้านภาษาอังกฤษนะ เราอยากพูด ฟัง อ่านและเขียนได้แบบเจ้าของภาษาตอนนี้เรากำลังพยายามฝึกต่อไป และหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้แบบเจ้าของภาษา
ป.ล. วิธีอาจจะเป็นประโยชน์หรือไม่ก็แล้วแต่บุคคลนะ
ป.ล.2 และวิธีนี้ก็อาจจะเหมาะสมกับแค่บางคนนะ
ป.ล.3 ถ้าเรามีวิธีการฝึกอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวเล่าในฟังใหม่นะ
Mr.Mp
เรารักภาษาอังกฤษมาก เราชอบดารา นักร้อง ศิลปิน ต่างชาติมาก เรารักอเมริกามาก เรามีความคิดว่าสักครั้งในชีวิตเราต้องไปที่นั่นให้ได้ เราจึงทำทุกวิธีทางที่จะฝึกภาษาให้เก่งเพื่อจะไปที่นั่น เราเป็นคนขี้เกียจค่อนข้างมาก แต่เรารักการดูหนัง ดูซีรี่ย์มาก เราจึงหาวิธีที่จะฝึกภาษาอังกฤษ ตอนแรกเราคิดจะท่องคำศัพท์ทุกวัน คิดว่าอ่านหนังสือภาษาอังกฤษทุกวัน แต่ว่าในความจริง เราท่องได้แค่สองวันเว้ย พอวันที่เราก็ค่อยท่องละกัน ผลัดวันประกันพรุ่งมาก ความคิดก็ล้มเลิกไปในไม่ช้า.... แต่ก็ท้อไม่นานนะ หลังนั้นไม่นานสัก 1 ถึง 2 อาทิตย์ คามคิดที่อยากจฝึกภาษาอังกฤษเราก็ถูกปลกขึ้นมาอีกครั้งโดยจากที่เราไปยูทูปฟังเรื่องราวชีวิตของคนอื่นที่ประสบความสำเร็จจากการที่พวกเขานั้นเก่งภาษาอังกฤษ เราก็เริ่มต้นนับ 1 จากการหาวิธีที่จะฝึกภาษาอังกฤษอีกครั้ง ครั้งนี้เราเลือกวิธีการฟังเข้ามาเป็นตัวลือกอย่างแรก เราจริงเจอวิธีที่ว่า การดูหนังดูซีรี่ย์ ที่ช่วยให้เราสามารถฟังเจ้าของภาษาพูดได้มากขึ้น และช่วยพัฒนาทักษะในการฟังมากขึ้น เราก็คิดว่าวิธีนี้น่าสนใจ เราก็ตั้งเป้าหมายแล้วก็เริ่มฝึก บออกตามความจริงนะแก สองสามเดือนแรกเราดูซีรี่ย์บ่อยนะแต่ไม่ได้บอกขนาดนั้นทุกอ่ะ แบบอาทิตย์นึงประมาณ4-5ตอนถ้ามีเวลาว่าง ดูหนังบ้างถ้าเราว่าง แล้วก็เราฟังเพลงภาษาอังกฤษทุกวัน เราก็ลองไปฟังบทสัมภาษณ์สั้นๆของฝรั่ง เห้ย มันฟังไม่เห็นออกเลยวะ เราก็แอบโกรธที่มันไม่เห็นจะช่วยอะไรเลย แต่หลังจากสองเดือนนั้นมันทำให้เราติดซีรี่ย์ฝรั่งไปเลย ปกติเราติดซีรี่ย์เกาหลีนะ ชอบความรักแบบน่ารัก โรแมนติก แต่หลังจากเราดูซีรี่ย์ฝรั่งเราติดซีรี่ย์แนวสอบสวน สืบสวนไปเลย หลังจากนั้นเราก็ดูซีรี่ย์บ่อยๆแต่ไม่ได้ขนาดทุกวันหรือทุกอาทิตย์ขนาดนั้นเพราะ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เราเพิ่งเข้ามหาลัยแล้วกิจกรรมเยอะมาก และการก็มากโขเด้อ... เราก็ดูซีรี่ย์บางถ้ามีเวลา บางทีก็ดูหนัง เราทำแบบนั้นมานานมาก6-7 เดือนด้วยซ้ำนะ แล้วเราก็ไปเจอยูทูปคลิปนึงยาวประมาณ4-5นาที เราก็ลองฟังโดยไม่ได้คิดอะไร เห้ยแก!!! มันฟังออกเว้ย แต่บอกตามความจริงอีกครั้งเราไม่ได้แปลออกทั้งหมดนะ แต่พอฟังรู้เรื่องว่าเค้าพูดว่าอะไร พูดถึงอะไร ตอนนั้นเราช็อคตัวเองมากเลยนะ แต่ว่าที่เราออ่อนน่าจะเรื่องคำศัพท์ด้วยเลยทำให้ไม่สามารถแปลวออกทั้งหมดว่าเค้าพูดว่าอะไร แต่ตอนนี้เราก็ดีใจแล้วนะที่ฟังออกบ้าง ในส่วนเรื่องพัฒนาก็คงต้องพัฒนาต่อไป เพราะตอนนี้เราก็ไม่ได้พึงพอใจกับความสามารถตัวเองทางด้านภาษาอังกฤษนะ เราอยากพูด ฟัง อ่านและเขียนได้แบบเจ้าของภาษาตอนนี้เรากำลังพยายามฝึกต่อไป และหวังว่าในอนาคตเราจะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้แบบเจ้าของภาษา
ป.ล. วิธีอาจจะเป็นประโยชน์หรือไม่ก็แล้วแต่บุคคลนะ
ป.ล.2 และวิธีนี้ก็อาจจะเหมาะสมกับแค่บางคนนะ
ป.ล.3 ถ้าเรามีวิธีการฝึกอะไรเพิ่มเติมเดี๋ยวเล่าในฟังใหม่นะ
Mr.Mp
Comments
Post a Comment